สุญูดสะฮฺวีسجود السهو และ หนังสือศาสนา



สุญูดสะฮฺวีسجود السهو




จาก อิมรอน บิน หุศอยนฺ เล่าว่าที่จริงเมื่อท่าน รซุล นำพวกเขา(เศาะฮาบะฮฺ)ละหมาด ปรากฏว่า ท่านลืมท่านจะสุญูดสองครั้ง และกล่าวตะซะฮุด①หลังจากนั้นจึงให้สลาม

โดย อบูดาวูด และติรมิซีถือว่าหะดีษนี้หะซัน และอัลอากิมถือว่าหะดีษนี้ศอฮิหฺ


①สุญูดซะฮฺวีมีได้ทั้งก่อนและหลังให้สลามขึ้นอยู่กับสภาวะการลืม และสภาพดังกล่าวเกี่ยวพันไปถึงตะซะฮุด





อิหม่ามซาฟิอีมีทัศนะว่า เมื่อได้สุญูดสะฮฺวีก่อนให้สลาม ก็ไม่ต้องกล่าวตะซะฮุดอีก หลังสูญุดแล้ว





และทัศนะที่แตกต่างกัน เมื่อได้สุญูดสะฮฺวีหลังให้สลาม มีบางทัศนะว่า ไม่จำเป็นต้องกล่าวอีก





แต่มีความชัดเจนที่สำนักความคิดฮัมบะลี เมื่อสูญุดก่อนให้สลามไม่จำเป็นต้องกล่าวตะซะฮุดอีกเช่นเดียวกับความเห็นของอิหม่ามซาฟิอี แต่ถ้าสูญุดซะฮฺวีหลังให้สลามถือว่าจำเป็นต้องกล่าวตะซะฮุดใหม่!





ให้อ่านสามครั้งในตอนสูญุดสะฮฺวี สองครั้งสูญุดก็ก็หกครั้ง





سبحان من لا ينام ولا يسهو




ซุบหาน่า มัน ลายะนามุ วะ ลายัสฮู





มหาบริสุทธิแต่พระองค์ผู้ซึ่งไม่หลับนอนและไม่หลงลืม







หนังสือศาสนา อัล-หะดิษ






การทำความสะอาดภาชนะ






จาก อบู ฮุรอยเราะฮฺ เล่าว่า ท่านรสูล กล่าวว่า การทำความสะอาดภาชนะของคนหนึ่งในหมู่พวกท่านที่สุนัขเลีย ก็ด้วยการล้างถึง 7 ครั้ง∎¹ หนึ่งใน 7 ต้องเป็นน้ำดิน∎² (น้ำขุ่นข้น)
โดย มุสลิม และในสำนวนหนึ่งของมุสลิมที่ว่า ให้ถูกับดิน ส่วนสำนวนของติรมิซีมีว่า ครั้งสุดท้ายหรือครั้งแรก∎³





1. ลักษณะการรับทราบของท่านรสูล ในเรื่องนี้ที่ระบุว่า ในน้ำลายของสุนัขจะมีเชื้อโรคประเภทหนึ่งในกลุ่มไมโครไบท์(Microbite) ถือว่าเป็นมัวะอฺญิซาตประเภทหนึ่งในหลายประเภทของท่าน เชื้อโรคที่ว่านี้จะอยู่ในระเพาะและลำไส้ มีคเวเมยาวถึง 4 เมตร เมื่อสุนัขเลียสิ่งใด แม้แต่เลียตัวของมันเอง หรือสิ่งอื่นนำพามา เชื้อเหล่านี้ก็จะออกมาทางนำลายติดอยู่กับสิ่งนั้นแพร่เชื้อต่อไป มีผลต่อสมองและหัวใจของมนุษย์
2. ท่านรสูลทราบดีถึงวิธีกำจัดเชื้อโรคประเภทต่างๆ ถือว่าเป็นวะหฺยูส่วนหนึ่ง ด้วยการที่เชื้อนี้สัมผัสกับดินจะด้วยน้ำที่ผสมกับดินเป็นน้ำขุ่นข้น หรือถูกับดิน หรือ ถูด้วยดิน ก็สามารถขจัดเชื้อนี้ได้




3. คำว่าครั้งสุดท้าย หรือครั้งแรก ในการล้างนั้นมิใช่ลักษณะของทางเลือกแต่เป็นความสงสัยของผู้รายงานถึงกระนั้น ก็ควรปฏิบัติในลักษณะใดก็ได้


ท่านนบี ศ็อลลัลลอฮุอะลัยฮิวะสัลลัม ได้กล่าวไว้ความว่า “ผู้ใดอ่านดุอาอ์สัยยิดุลอิสติฆฟาร(แม่บทหรือผู้นำแห่งการกล่าวขออภัยโทษ)นี้ ในเวลากลางวัน (ช่วงเช้า) ด้วยเปี่ยมศรัทธา แล้วเขาได้เสียชีวิตลงก่อนถึงเวลาเย็น เขาจะเป็นหนึ่งในบรรดาชาวสวรรค์ แล...ะผู้ใดอ่านดุอาอ์นี้ในเวลากลางคืน (ช่วงเย็น) ด้วยเปี่ยมศรัทธา แล้วเขาได้เสียชีวิตลงก่อนถึงเวลาเช้า เขาจะเป็นหนึ่งในบรรดาชาวสวรรค์เช่นเดียวกัน” (เศาะฮีหฺ อัล-บุคอรีย์ เลขที่ 6306, อัน-นะสาอีย์ เลขที่ 5524, อบู ดาวูด เลขที่ 5070, อัต-ติรมิซีย์ เลขที่ 3453)

ตัวบทดุอาอ์
اَللَّهُمَّ أَنْتَ رَبِّي، لاَ إِلَهَ إِلاَّ أَنْتَ، خَلَقْتَنِي وَأَنَا عَبْدُكَ وَأَنَا عَلَى عَهْدِكَ وَوَعْدِكَ مَا اسْتَطَعْتُ، أَعُوْذُ بِكَ مِنْ شَرِّ مَا صَنَعْتُ، أَبُوْءُ لَكَ بِنِعْمَتِكَ عَلَيَّ، وَأَبُوْءُ بِذَنْبِي فَاغْفِرْلِي فَإِنَّهُ لاَ يَغْفِرُ الذُّنُوْبَ إِلاَّ أَنْتَ

คำอ่าน
อัลลอฮุมมะ อันตะ ร็อบบี, ลาอิลาฮะอิลลา อันตะ, คอลักตะนี วะอะนาอับดุกะ วะอะนาอะลาอะฮฺดิกะ วาวะอฺดิกะ มัสตะเฏาะอฺตู, อะอูซุบิกะ มิน ชัรรีมา ศอนะอฺตุ, อะบูอุละกะ บินิอฺมะติกะ อะลัยยะ, วะอะบูอุ บิซัมบี, ฟัฆฟิรฺลี ฟะอินนะฮู ลา ยัฆฺฟิรุซ ซุนูบะ อิลลาอันตะ

ความหมาย
“โอ้อัลลอฮฺ พระองค์คือพระผู้อภิบาลของฉัน ไม่มีพระเจ้าอื่นใดนอกจากพระองค์ พระองค์ได้ทรงสร้างฉันและฉันคือบ่าวของพระองค์ ตัวฉันกับสัญญาแห่งผลตอบแทนที่ดีและสัญญาแห่งการลงโทษของพระองค์นั้น (ฉันทำได้และฉันจะทำ)ตราบเท่าที่ฉันมีความสามารถเท่านั้น ฉันขอความคุ้มครองต่อพระองค์จากความชั่วร้ายที่ฉันได้กระทำไว้ ฉันกลับไปหาพระองค์ด้วยการยอมรับในความโปรดปรานของพระองค์ที่มีต่อตัวฉัน และฉันขอกลับไปหาพระองค์ด้วยการยอมรับในความผิดบาปของฉัน ดังนั้น ขอได้โปรดประทานอภัยแก่ฉันเถิด เพราะแท้จริงไม่มีผู้ใดสามารถประทานอภัยในบาปต่างๆ ได้นอกจากพระองค์เท่านั้น”

คำอธิบาย
ให้อ่านดุอาอ์นี้อย่างน้อยสองครั้งทุกวันในช่วงเช้าและเย็น ด้วยความอิคลาศ(บริสุทธิ์ใจ) โดยพยายามทำความเข้าใจและซึมซับกับความหมายให้ลึกซึ้งเพื่อจะได้เข้าถึงแก่นแท้ของนัยยะที่ยิ่งใหญ่อันซ่อนอยู่ในดุอาอ์นี้


my space tracker
Buy MacBook Pro

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น